ข่าวลือ “ไอโฟน
5” ฉุดกำไรแอปเปิลพลาดเป้า
แอปเปิล (Apple)
ยักษ์ใหญ่โลกไอทีที่มีมูลค่าบริษัทสูงที่สุดในโลกประกาศผลประกอบการช่วงเดือน
เม.ย.-มิ.ย. 2012 แม้จะสามารถจำหน่ายไอโฟนได้ถึง 26
ล้านเครื่องและไอแพด 17 ล้านเครื่องในช่วง
3 เดือนที่ผ่านมา
แต่รายได้ของแอปเปิลก็ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์วอลล์สตรีทเจอร์นัลคาดการณ์
เบื้องต้นเชื่อเป็นเพราะข่าวลือไอโฟนรุ่นใหม่ที่ทำให้ไอโฟนรุ่นปัจจุบันจำหน่ายได้น้อยกว่าที่ควร
ปีเตอร์ โอเพนไฮเมอร์ (Peter Oppenheimer) ประธานฝ่ายการเงินของแอปเปิลให้สัมภาษณ์ว่า
ยอดจำหน่ายไอโฟน (iPhone) สมาร์ทโฟนหน้าจอสัมผัสของบริษัทในไตรมาสที่ผ่านมานั้นได้รับผลกระทบจากข่าวลือและคำคาดการณ์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างชัดเจน
โดยยอมรับว่าอัตราเติบโตของตลาดไอโฟนในยุโรปนั้นเป็นไปอย่างเชื่องช้า โดยเฉพาะตลาดอย่างฝรั่งเศส
กรีซ และอิตาลี ที่เคยเป็นตลาดหลักของไอโฟนมาตลอด
แอปเปิลระบุว่า ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา (สิ้นสุดวันที่
30 มิ.ย. 2012) แอปเปิลสามารถจำหน่ายไอโฟนได้
26 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม
อัตราการเติบโตนี้กลับแสดงภาวะชะลอตัวเมื่อเทียบกับอัตราเติบโตในช่วง 4-5
ไตรมาสที่ผ่านมา
ทั้งหมดนี้ทำให้มูลค่าหุ้นแอปเปิลลดลงมาปิดตลาดที่ 600 เหรียญสหรัฐ
หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้อัตราเติบโตของตลาดไอโฟนไม่คึกคักเท่าที่ควรคือการอั้นซื้อเพื่อรอให้ไอโฟนรุ่นใหม่เปิดตัว
ไม่เพียงไอโฟน
แท็บเล็ตอย่างไอแพดยังถูกร่ำลือว่าแอปเปิลจะเปิดตัวรุ่นใหม่ที่มีหน้าจอเล็กกว่าในช่วงปีนี้
เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์กลุ่มแอปเปิลทีวี (TV) ทั้งหมดนี้ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจชะลอการซื้อเพื่อรอชมผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ของแอปเปิลก่อน
ภาวะที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องใหม่ของแอปเปิล
เพราะที่ผ่านมาข่าวลือเรื่องไอโฟนรุ่นปัจจุบัน iPhone 4S ก็เคยทำให้ยอดจำหน่าย iPhone 4 ชะลอตัวมาก่อนหน้านี้
แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือภาวะอั้นซื้อเพราะข่าวลือไอโฟนนั้นมักเกิดขึ้นในช่วงเดือน
ต.ค. ซึ่งสวนทางกับปีนี้ที่ภาวะอั้นซื้อเกิดขึ้นเร็วกว่าปกติ
อย่างไรก็ตาม ทิม คุค (Tim Cook) ซีอีโอแอปเปิลยืนยันว่า
ยอดจำหน่ายไอโฟนในสหรัฐฯ และจีนนั้นยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง
โดยเฉพาะในตลาดจีนมียอดจำหน่ายสูงกว่าปีที่ผ่านมามากกว่าเท่าตัว
ซึ่งยืนยันว่าสหรัฐฯ และจีนเป็นตลาดหลักที่มีมูลค่ามากที่สุดของไอโฟนในขณะนี้
แอปเปิลระบุว่าสามารถทำรายรับรวม 3.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐช่วง
3 เดือนที่ผ่านมา ต่ำกว่า 3.72 หมื่นล้านเหรียญที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้
ทั้งหมดนี้ทำให้แอปเปิลมีกำไรขั้นต้น 8.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ
คิดเป็น 9.32 เหรียญต่อหุ้นซึ่งต่ำกว่า 10.32 เหรียญต่อหุ้น โดยกระแสเงินสดของบริษัทนั้นเพิ่มขึ้นอีกราว 7 พันล้านเหรียญในช่วงเดือน มี.ค. มาเป็น 1.17 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
ซึ่งสะท้อนความพร้อมของแผนซื้อคืนหุ้นแอปเปิล
สำหรับแท็บเล็ตไอแพด แอปเปิลระบุว่าการเปิดตัวไอแพดรุ่นใหม่ในเดือน มี.ค.นั้นทำให้ยอดจำหน่ายพุ่งกระฉูด
17 ล้านเครื่อง คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 84% เหนือกว่าคาดหมาย
จุดนี้ซีอีโอแอปเปิลยืนยันว่าแท็บเล็ตรุ่นก่อนหน้าอย่าง iPad 2 นั้นยังมีเสียงตอบรับดีเยี่ยม
โดยเฉพาะจากผู้บริโภคกลุ่มการศึกษาในสหรัฐฯ
|
ยอดจำหน่ายไอโฟน 26 ล้านเครื่องนั้นต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าแอปเปิลจะขายได้ราว
28-29 ล้านเครื่อง โดยลดลงกว่าไตรมาสแรกต้นปีถึง 26%
พร้อมกับรายรับรวมที่ลดลงกว่า 28% เมื่อเทียบกับที่แอปเปิลทำได้ในเดือน
ม.ค.-มี.ค.ที่ผ่านมา
งานนี้โอเพนไฮเมอร์ยอมรับกับนักวิเคราะห์ว่า สัดส่วนกำไรหรือ gross
margin ของแอปเปิลในไตรมาสปัจจุบัน (ก.ค.-ก.ย.) ซึ่งเติบโตมาตลอด
จะลดลงราว 4 จุดจนเหลือ 38.5% ในไตรมาสปัจจุบัน
ผลจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งตัวขึ้นและภาวะไม่มีสินค้าใหม่สู่ตลาด
ทั้งหมดนี้แอปเปิลไม่ให้รายละเอียดเรื่องการสร้างผลิตภัณฑ์กำไรต่ำ
ทั้งไอโฟนรุ่นใหม่และไอแพด
ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าแอปเปิลจะถูกกดดันให้เปิดตัวไอแพดรุ่นใหม่ที่มีราคาถูกลง
เพื่อให้แข่งขันกับแท็บเล็ตของกูเกิลอย่างเน็กซัสเซเวน (Nexus 7) ที่ตั้งราคาจำหน่ายเพียง 200 เหรียญ
นอกจากนี้
แอปเปิลยังเปิดเผยว่ากล่องรับคอนเทนต์ออนไลน์สำหรับทีวีอย่างแอปเปิลทีวี (Apple
TV) ซึ่งมีราคาจำหน่าย 99 เหรียญสหรัฐนั้นสามารถจำหน่ายได้
1.3 ล้านเครื่องในช่วง 3 เดือนก่อน
เบ็ดเสร็จยอดขายรวม 4 ล้านเครื่องตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา โดยร้านออนไลน์แอปเปิลสโตร์ (Apple Store) สามารถสร้างรายได้ให้แอปเปิลถึง 4.1 พันล้านเหรียญ
ท่ามกลางลูกค้า 83 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 12%
ทั้งหมดนี้ซีอีโอแอปเปิลแสดงความไม่กังวลต่อภาวะการอั้นซื้อที่เกิดขึ้น
โดยระบุว่าดีใจที่เห็นผู้บริโภคต้องการสิ่งใหม่ ซึ่งเขาและทีมงานแอปเปิลมีความยินดีอย่างมากหรือ
“super happy” กับเรื่องที่เกิดขึ้น
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น